“จุรินทร์”ย้ำคำวินิจฉัยศาลรธน.ผูกพันธ์ทุกองค์กร 8 ปี”ประยุทธ์”เป็นนายกฯได้ถึง 68

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ให้สัมภาษณ์ที่ศาลเจ้าแม่จ้อโป๋ (ทับทิม) จ.พังงา ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยความเป็นนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุดลงว่า เป็นไปตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร โดยเนื้อหาคำพิพากษาก็คือวาระการดำรงตำแหน่ง ท่านนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฉพาะตัวของท่าน ถือว่านับหนึ่งเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันบังคับใช้ และจะดำรงตำแหน่งนายกฯ ได้ไม่เกิน 8 ปี ซึ่งหากจะนับปีสิ้นสุด ก็คงประมาณปี 68 นั่นก็คือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนท่านจะอยู่แค่ไหนอย่างไรนั้น ก็ต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ทั้งปัจจุบันและต่อไปในอนาคต แต่สำหรับรัฐบาลชุดนี้ก็หมายความว่า ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในทางการเมืองเกิดขึ้น วาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีในสภาชุดนี้ก็จะไปได้ถึงเดือน มีนาคม 2566 ซึ่งก็จะมีเวลาอีกประมาณ 5-6 เดือน ถัดจากนี้ไป ยกเว้นเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ก็ต้องเป็นไปตามสถานการณ์ แต่ถ้าไม่มีอะไร ก็หมายความว่าจะครบเทอมในช่วงเดือนมีนาคม ปี 66

ผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกที่มีต่อ พล.อ. ประยุทธ์ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาล ท่านก็ต้องถือว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นผู้บังคับบัญชาในการบริหารราชการแผ่นดิน ส่วนในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถือว่าประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง เราก็ทราบภารกิจดีอยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร อย่างไร ต่อไป ก็จะต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล หรือในฐานะของหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ที่มีหน้าที่ต้องบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยทั้งประเทศ

เมื่อถามว่า การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะส่งผลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ถือว่ายังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ เพราะว่าการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรี และบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ตราบเท่าที่ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องดังกล่าวจะส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนตอบล่วงหน้าไม่ได้ ต้องอยู่ที่เสียงของพี่น้องประชาชนแต่ถ้าดูสถานการณ์ทางการเมือง ช่วงเวลานี้ก็ต้องถือว่า กำลังเดินเข้าสู่โหมดเลือกตั้งแล้ว หรืออย่างน้อยก็ต้องเรียกว่าอยู่ในโหมดของการเตรียมการเลือกตั้ง เพราะได้เข้าสู่ 6 เดือนสุดท้ายของสภาสมัยนี้ หมายความว่าได้ผ่าน 3 ปีครึ่งมาแล้ว ยังเหลืออีกครึ่งปีที่จะครบวาระ ประมาณวันที่ 24 มี.ค. ปีหน้า เพราะฉะนั้นพรรคการเมืองทั้งหลายก็เตรียมตัวกันอยู่ และพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นพรรคการเมืองหนึ่งซึ่งเราก็มีความพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง เพราะได้มีการเตรียมการมาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวบุคคล ผู้สมัคร หรือจะเป็นเรื่องนโยบาย และการเตรียมการด้านอื่นๆ

เมื่อ ถามว่า จากวาระที่เหลืออยู่คาดว่าในส่วนของประชาธิปัตย์จะมีการปรับ ครม. หรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้นายนิพนธ์ บุญญามณี ได้ลาออกจาก รมช. มหาดไทย ส่วนคนที่จะมาแทนหรือว่าจะมีการปรับอย่างไรต่อไป ก็คงเป็นเรื่องที่ตนจะต้องหารือกับนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะผู้ที่มีอำนาจปรับ และทูลเกล้าฯ

เมื่อถามว่า จะฝากถึงกลุ่มประชาชนที่มีความคิดแตกต่างกันในเรื่องวาระการดำรงนายกรัฐมนตรี ของ พล.อ. ประยุทธ์ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ว่ไม่ขอฝากอะไร ตนเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ฉะนั้นจึงมองเรื่องความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ทุกสังคมที่เป็นประชาธิปไตย ประชาชนก็สามารถมีความเห็นต่างได้ แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์กติกาทั้งหมด เชื่อว่าถ้าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎเกณฑ์ กติกา ทุกอย่างก็ไปได้ แล้วมันก็มีทางออกของมันเสมอ เหมือนที่ได้เคยเรียนย้ำไป

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s