เมื่อวันที่28 ส.ค.2565 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ประเด็นการดำรงตำแหร่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรคเพื่อไทยขอขอบคุณเสียงส่วนใหญ่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ยื่นข้อเท็จจริง ในระหว่างที่รอกระบวนการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อชี้ชะตาชีวิตคนไทยทั้งประเทศ พรรคเพื่อไทยขอเรียนต่อพี่น้องต่อสื่อมวลชนและประชาชนว่า บัดนี้ผู้นำรัฐบาลเปลี่ยนมือจากน้องเล็กมาเป็นพี่ใหญ่ ที่ดูเหมือนจะไม่เคยรู้อะไรเลย จะบริหารประเทศอย่างไร จะแก้ปัญหาที่หมักหมมมาตลอด 8 ปีได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลและสิ้นหวังอย่างยิ่ง
น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ขณะนี้ ทั้งพี่ใหญ่ น้องกลางและน้องเล็กกอดคอร่วมหัวจมท้ายกันมานานกว่า 8 ปี พรรคเพื่อไทยเห็นว่า ครม.หรือรัฐบาลขณะนี้เปรียบได้กับ “เป็ดง่อย” พิกลพิการ ทำอะไรไม่ได้ องค์ประกอบของครม.ก็ขาดวิ่น มีรูโหว่เต็มไปหมดไม่ต่างจากกระชังก้นรั่ว ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ปล่อยให้รัฐมนตรีช่วยว่างอยู่ 2 ตำแหน่งมาเกือบ 1 ปีเต็ม
1.เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 ปลดร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจาก รมช.เกษตรและสหกรณ์
2.ปลดนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจาก รมช.แรงงาน แล้วก็ปล่อยตำแหน่งรัฐมนตรีให้ว่างมาเกือบปี ปล่อยให้การบริหารราชการแผ่นดินขาดตกบกพร่อง
3.ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2556 ศาลฎีกามีคำสั่งให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมช.ศึกษาธิการอีก
4.วันที่ 14 กันยายน 2556 มีกรณีที่นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จะถูกศาลรธน.วินิจฉัยให้พ้นจาก รมต.หรือไม่ เพราะถูกร้องว่า เคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.สงขลา เพราะเกี่ยวพันกับการฮั้วประมูล
ทั้งนี้ปัจจุบันเท่ากับว่าตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยของรัฐบาลเป็ดง่อยสภาพ “เตี้ยอุ้มค่อม” ว่างอยู่ 3 ตำแหน่งสำคัญ และรอการพิจารณาว่าจะขาดไปอีก 1 ตำแหน่ง ทั้ง ครม. ที่คัดเลือกมาจากฝีมือของ พล.อ.ประยุทธ์ ต่างคนต่างอยู่ ขาดเอกภาพ ไร้ประสิทธิภาพ ประเทศจึงเดินมาถึงจุดที่ไร้เสถียรภาพขั้นสูงสุด ผู้คุมกฎหมายกลายเป็นผู้ประทำผิดเอง จนกลายเป็นบ่อเกิดของระบบอุปถัมภ์ที่เฟื่องฟู การฝากฝังใช้เส้นสายกลายเป็นเครื่องหมายแสดงอำนาจ จนเกิดกรณี ส.ต.ท.หญิง ที่กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวในแวดวงสีกากี ลามไปถึงวงการลายพรางในวันนี้
“ความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีแม้สักวินาทีเดียว เพราะประชาชนไม่ได้เลือกท่านมา แต่สถานการณ์พาไป มาถึงเวลานี้แล้วทางออกประเทศ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับในกฎหมายที่ตนเองแต่งตั้งผู้ร่างกฎหมายขึ้นมาเอง ซึ่งสุดท้ายกฎหมายกลับมาบีบคั้นตัว พล.อ.ประยุทธ์ เสียเอง ทางรอดของประเทศอยู่ที่ทางเลือกทางลงของพล.อ.ประยุทธ์ จะเลือกให้ตัวเองรอด หรือจะเลือกให้ประเทศและประชาชนรอดเท่านั้น” นางสาวตรีชฎา กล่าว
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่กระแสกดดันให้นายกฯลาออกจากตำแหน่งยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่า สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรทำมากกว่าการ ดื้อรั้น ลับลวงพราง แอบดอดเข้าไปนั่งในกระทรวงกลาโหมจนสูญเสียความสง่างาม คือการปล่อยวาง ตั้งสติ ตั้งใจศึกษาหลักธรรม อริยสัจ 4 ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ให้เข้าใจถ่องแท้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดคิดเข้าข้างตัวเองว่า ประเทศไปต่อไม่ได้ถ้าขาดพล.อ.ประยุทธ์ ความจริงคือประเทศไปได้และไปได้ดีกว่า ขนาดถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คนไทยยังดีใจขนาดนี้ ถ้าถูกสั่งให้พ้นจากการเป็นนายกฯคนไทยจะออกมาฉลองกันขนาดไหน
ทั้งนี้ถ้าถึงขั้นแอบดอดไปเข้าประชุมครม.ในขณะถูกสั่งให้หยุดจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ในทางเสียหายขนาดไหน พล.อ.ประวิตร แม้จะอยากรักษาการเพื่อหวังเป็นตัวจริงในอนาคต แต่เชื่อว่าไปต่อลำบาก แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะให้โอกาส พล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำคำชี้แจงไปยังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันเพื่อแก้ข้อกล่าวหา แต่พล.อ.ประยุทธ์จะเอาอะไรไปชี้แจง และจะชี้แจงเพื่ออะไร ในเมื่อใครก็รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 57 จนถึงวันที่ 24 สิงหาคม 65 เป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี ที่รัฐธรรมนูญเขียนห้ามไว้
การตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ หลักๆอยู่ที่รัฐธรรมนูญ 2 มาตรา คือ มาตรา 158 วรรคสี่ ได้วางหลักเกณฑ์ห้ามไม่ให้นายกฯ ดำรงตำแหน่งเกิน8ปี ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ มาตรา 264 ให้คณะรัฐมนตรีก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้ดำรงตำแหน่งต่อไปตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาก่อนรัฐธรรมนูญนี้ประกาศใช้ จึงเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ดังนั้น จึงเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งบัญญัติว่านายกรัฐมนตรีจะดํารงตําแหน่งรวมกันแล้วเกินแปดปีมิได้ ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน แค่พล.อ.ประยุทธ์ พูดคำว่าผมพอแล้ว ขอลาออก เปิดทางให้สภาได้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในบัญชีเข้ามาทำหน้าที่และเมื่อกฎหมายเลือกตั้งพร้อมก็ประกาศยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่
“พล.อ.ประยุทธ์ บอบช้ำหนักขนาดนี้ ถ้าเป็นนักมวยก็สภาพเละเทะ โดนไปหลายนับ จนกรรมการสั่งหยุด ไม่ใช่แค่พักยก แต่ต้องพักยาว โอกาสกลับมาริบหรี่ 8 ปีนานมากแล้ว พอได้แล้ว อย่ารั้น อย่าดิ้นรนให้ประเทศเสียหายอีกเลย”นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการสื่อสารการเมืองพรรคเพื่อไทย จะได้จัดเสวนาหัวข้อ 8 ปี ประยุทธ์ พอเถอะครับ ประเทศไทยต้องไปต่อ พบกับวิทยากร นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ใน เวลา 10:00 น. ถึง 11:00 น. วันอังคารที่ 30 สิงหาคม 2565 ณ Think Lab พรรคเพื่อไทย ถ่ายทอดสด ผ่านทางเพจพรรคเพื่อไทย