เมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ศาล จ.ขอนแก่น อัยการจังหวัดขอนแก่นได้มีคำสั่งฟ้องเอาผิด นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำคณะราษฎรขอนแก่น จากเหตุการณ์การชุมนุมและจัดกิจกรรม “จัดม็อบไล่แม่งเลย” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 20 ส.ค.2563

ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายพริษฐ์ และ นายจตุภัทร์ เดินทางมากับนายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้ารายงานตัวต่อพนักงานอัยการและต่อศาลทันที โดยศาลใช้เวลาในการพิจารณาการรับฟ้องและนัดตรวจเอสการหลักฐานตามขั้นตอนของกฎหมายนานกว่า 3 ชม. ก่อนจะมีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวเพนกวินและไผ่
นายพัฒนะ ศรีใหญ่ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า คดีความดังกล่าวเกิดขึ้นจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2563 โดยวันนี้อัยการได้มีคำสั่งฟ้องเพนกวินและไผ่ รวม 3 ข้อกล่าวหา คือความผิดตามมาตรา 112,116 และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งเพนกวินและไผ่ ยังคงยืนยันในการชุมนุมตามสิทธิและตามกรอบของระบอบประชาธิปไตย โดยศาลได้นัดตรวจเอกสารหลักฐาน ทั้งฝั่งโจทก์และจำเลยในวันที่ 19 ธ.ค.

“ ศาลได้มีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวไผ่ และเพนกวิน โดยให้ทำสัญญาค้ำประกันคนละ 50,000 บาท โดยมีเงื่อนไขหากไม่มารายงานตัวก็จะต้องชำระเงินตามวงเงินการประกัน ส่วนเงื่อนไขข้อห้ามต่างๆ เนื่องจากทั้ง 2 คนมีเงื่อนไขจากศาลอื่นๆ ตามคดีที่มีอยู่นั้นมีมากอยู่แล้ว โยเฉพาะกับการเดินทางออกนอกกรุงเทพฯที่ทั้ง 2 จะต้องขออนุญาตทุกครั้งเป็นกรณีไป”นายพัฒนะกล่าว
นายพัฒนะ กล่าวว่า ไผ่และเพนกวินมีคดีความอยู่ในชั้นศาลหลายคดี ทำให้การดำเนินคดีที่ขอนแก่น จึงต้องดูคดีอื่นๆประกอบกันไปด้วย เพื่อให้ศาลท่านได้ลงรับและนัดวันในการดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งทีมทนายความยืนยันในการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตยและสิทธิตามรัฐธรมนูญที่กำหนด ในขณะที่การรวมคดี เนื่องจากที่ไผ่ และเพนกวิน มีคดี จาการชุมนุมและการจัดกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งแม้จะมีหลายคดี แต่ในแต่ละคดีไม่มีความสัมพันธ์กัน จึงไม่สามารถที่จะรวมคดีได้ ซึ่งทีมทนายความจึงจะมีการร่วมหารือเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการของกฎหมายและตามระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มที่