ปชป.ดิ้นรุมฉะ “สมคิด”หลังถูกหยันส.ส.ภาคใต้เป็นได้แค่เสาไฟฟ้า

สส.ปชป.ออกโรงโต้ “สมคิด” ออกนโยบายมามีแต่ปัญหา ไล่กลับไปเลี้ยงลูก หลังถูกตีท้ายครัวที่ภูเก็ตหยันส.ส.ภาคใต้เป็นได้แค่เสาไฟฟ้า ยันนโยบายประกันรายดีกว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทยปราศรัยที่จังหวัดภูเก็ตในงานสัมมนาอันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง ตอนหนึ่งว่า ภาคใต้มีส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร สมัยที่นั่งอยู่ในครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย มีแต่ประกันรายได้ และถามว่าตกลงเป็นส.ส.หรือเสาไฟฟ้านั้นว่า เป็นการปรามาสดูถูกผู้แทนของชาวใต้ แบบนี้เป็นการดูถูกประชาชนหรือไม่ ถ้าจิตใจของ นายสมคิด ถึงขั้นมองส.ส.ของชาวบ้านเป็นเสาไฟฟ้าเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิตจิตใจได้แล้ว ขอเชิญกลับบ้านไปเลี้ยงลูกชายคนเล็กดีกว่า

“ที่บอกว่าอยู่ในครม.ไม่ได้ยินเสียงส.ส.ใต้สักแอะนั้น แสดงว่านายสมคิดเอานั่งหาว หรือนายกฯให้ออกจากรองนายกฯไปแล้วแน่ๆ เพราะส.ส.ใต้ทุกพรรคล้วนเสนอให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านทั้งสิ้น ไม่มีส.ส.ภาคใต้เป็นใบ้แม้แต่คนเดียว และประการสำคัญถนนเพชรเกษมและถนนสายหลักในภาคใต้ที่ได้งบประมาณมาปรับปรุงนั้นเพราะนายชวน หลีกภัย ทำหนังสือถึง พลเอกประยุทธ์ สั่งการให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในขณะนั้นดำเนินการในครม.นายสมคิด ไปนั่งหลับอยู่ตรงไหน”นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ประเทศนี้เอาแน่เอานอนกับผู้ใหญ่ของประเทศไม่ได้แล้ว แม้แต่คนที่เป็นได้รับการเสนอชื่อจากพรรคสร้างอนาคตไทยให้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างนายสมคิด ก็ยังทำตนไม่สมฐานะที่เป็นผู้ใหญ่  ไปบ้านเพื่อนยังไปพูดจาเสียดสี กระแนะกระแหนดูหมิ่นดูแคลนพรรคการเมืองอื่น แบบนี้เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพตรงไหน และชาวบ้านจะฝากความหวังไว้ได้อย่างไร

“นายสมคิด มีวิสัยทัศน์เป็นนักการตลาด จะแก้ไขปัญหาปากท้องอย่างไรก็ว่ากันไป แต่กลับมาแขวะนโยบายของพรรคการเมืองอื่นและผู้แทนที่คนใต้เลือกทำไม การประกันรายได้เป็นหลักประกันของเกษตรกรและคนไทยทั้งประเทศ ชาวบ้านได้ประโยชน์ตรงๆ กลับมาดูถูกว่าเป็นเรื่องหมูๆ แล้วสมัยที่นายสมคิดเป็นรองนายกฯ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร จนถึงรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ 8 ปี 181 วัน ได้ทำหลักประกันเพื่อเกษตรกรบ้างหรือไม่ พี่น้องประชาชนจำได้ไหมว่า ใครที่ประกาศว่าคนจนจะหมดไปภายในปี 2018 หรือปี พศ. 2561 แล้วขณะนี้คนจนหมดไปจริงหรือไม่ ได้ทำไหม อย่านั่งแต่ในห้องแอร์ ลงมาสัมผัสชีวิตจริงของชาวบ้านบ้าง อย่าทำตนเป็นเพียงนักการตลาดลวงโลกเท่านั้น “นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวอีกว่า ยุคคสช.ตนออกมาแถลงความจริงว่าคสช.กำลังจัดตั้งพรรคการเมืองในทำเนียบรัฐบาลโดยมีนายสมคิด ป็นตัวหลัก  นายสมคิด ก็สวนว่าข้อมูลผิด แต่ต่อมาความจริงก็เป็นไปตามที่พูด นายสมคิดจึงโกหกประชาชนตั้งแต่ต้น เอาเปรียบพรรคการเมืองทุกพรรค แล้วจะให้เชื่อถือว่าเป็นความหวังของประเทศได้อย่างไร และล่าสุดบริษัทที่เคยอยู่ก็ขอขึ้นราคามาม่าถึงซองละ 2 บาท แต่กระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้แค่บาทเดียว  แล้วก็ลาออกมาเล่นการเมือง กับคนจนที่กินมาม่ายังจะขึ้นราคาแพงๆแบบนี้เอาเปรียบหรือไม่ แล้วอันดามันจะรอด ประเทศไทยจะรุ่งเรืองได้อย่างไร

ด้าน นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ พรรคสร้างอนาคตไทย บอกว่าจะเป็นพรรคที่มุ่งเน้นจะมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจโดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนนั้น ปรากฏว่า นายสมคิด กลับใช้เวทีสัมมนา “อันดามันรอด ประเทศไทยรุ่ง” ที่ จ.ภูเก็ต โจมตีการทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยระบุว่า “ภาคใต้มี ส.ส.มาตลอด ส.ส.ทำอะไร ผมนั่งอยู่ในครม.ไม่ได้ยินสักแอะเลย มีแต่ประกันรายได้ ประกันทั้งปีเลย ของหมูๆ อย่างนั้นใครๆ ก็ทำได้ ว่าจะไม่ว่าแล้วเชียว” นั้น เห็นว่า นายสมคิด คงไม่ทราบว่า นโยบายประกันรายได้ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ผลตรงตามที่ทางพรรคฯ ตั้งเป้าไว้ และรบกวนงบประมาณน้อยที่สุด ไม่เหมือนกับนโยบายที่ นายสมคิด คิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยอยู่พรรคไทยรักไทย จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ต่างมีปัญหาวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ เช่น พักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี วงเงินไม่เกิน 1 แสนบาทนั้น ปรากฏว่า เป็นเพียงการไม่จ่ายหนี้ แต่ดอกเบี้ยกลับสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ และเกษตรกรผู้เข้าโครงการต้องกลายเป็นเหยื่อของหนี้นอกระบบ นโยบายกองทุนหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยได้ ก็ถูกวิจารณ์ถึงการกู้ยืมเงินเพื่อไปซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยมาบำเรอความสุขของตัวเอง โดยเงินจำนวนดังกล่าวหมุนกลับไปยังกลุ่มทุนที่สนับสนุนรัฐบาลในเวลานั้น

นอกจากนี้ รวมถึง นโยบายที่มีการดำเนินการในปัจจุบัน เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ผู้ที่ได้รับสิทธิใหม่ เพราะมีหลายรายที่ควรจะได้สิทธิ์ แต่ก็ไม่ได้สิทธิ์ หลายรายที่จนไม่จริง แต่กลับได้ใช้สิทธิจริง และนโยบายคนละครึ่ง ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงๆแล้ว ปรากฏว่า ร้านค้าที่เคยเข้าร่วมโครงการกลับต้องมาเสียภาษีเต็มๆ โดยไม่สามารถใช้สิทธิคนละครึ่งในการเสียภาษีได้ จนต้องประกาศว่าเข็ดและไม่ขอเข้าร่วมโครงการนี้อีกต่อไป เหล่านี้ ถือเป็นนโยบายที่คิดมาโดยนายสมคิดและทีมงาน ที่คิดเอาแต่คะแนนเสียง โดยใช้เทคนิคทางการตลาดเพื่อให้ประชาชนคิดไปเองว่าได้ประโยชน์ แต่กลับมีผลกระทบมากในภายหลัง เปรียบเสมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ ที่ภายนอกดูหอมหวานแต่แฝงไว้ด้วยอันตรายที่คาดไม่ถึง

“ผมขอให้นายสมคิด รอดูวันที่พรรคประชาธิปัตย์ จะได้เปิดนโยบายเพื่อใช้ในการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ แล้วนายสมคิดก็จะรู้เองว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้แค่คิดแต่เพียงนโยบายประกันรายได้เกษตรกรเท่านั้น แต่คิดไปถึงการฟื้นฟูประเทศจากวิกฤตการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ด้วย” นายชัยชนะ กล่าว

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s