ทลายแก๊งขายเครื่องสําอาง “ปลอม”ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลางทลายแก๊งลักลอบจําหน่ายเครื่องสําอาง “ปลอม” ความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

เมื่อวันที่15 ก.ย. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ตำรวจกองปราบปราม ตำรวจปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) และตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดปฏิบัติการนําหมายค้นของศาล ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เข้าทลายแหล่งกักเก็บสินค้าประเภทเครื่องสําอางปลอม เครื่องหมายการค้า และไม่ผ่านการขออนุญาตจาก อย. รวม 9 จุด ก่อนจับกุม MR.WEIXIANG อายุ 40 ปี สัญชาติ จีน และนางสาวสมฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี

ทั้งคู่ถูกจับกุมฐาน “มีไว้เพื่อจําหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้าของ บุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียนแล้วในราชอาณาจักร และประกอบการค้าหรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวข้องใน การค้าเกี่ยวกับวัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชนหรือให้เช่าวัตถุหรือ สิ่งของเช่นว่านั้น” พร้อมของกลาง สินค้าประเภทเครื่องสําอาง ที่มีเครื่องหมายการค้าปลอม ยี่ห้อ ต่างๆ จํานวน 2,739 ชิ้น เครื่องสําอาง, อาหารเสริม, เครื่องมือแพทย์ และยา ที่ต้องสงสัยว่าไม่ผ่านการขออนุญาตจาก อย. รวม จํานวน 64,305 ชิ้น และสิ่งลามก (Sex Toy) จํานวน 1,349 ชิ้น โดยจับได้เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จาก บริษัท เจ้านาง (ไทยแลนด์) จํากัด ว่ามีผู้ลักลอบจําหน่ายแป้งพัฟทาหน้า ที่ปลอมเครื่องหมายการค้าของ บริษัทผู้เสียหาย ผ่านแพลทฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ จึงได้ทําการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ลักลอบจําหน่าย สินค้าผิดกฎหมาย มีพฤติกรรมเปิดบัญชีร้านค้าในแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์จํานวนหลายบัญชีไม่ซ้ำกัน เพื่อ หลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตํารวจได้รวบรวมพยานหลักฐานนําไปสู่การอนุมัติขอ หมายค้น ก่อนเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยว่าซุกซ่อนสิ่งของผิด กฎหมาย รวม 9 จุด สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาซึ่งเป็นสามี-ภรรยากัน และตรวจยึดของกลางดังกล่าวมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้านบาท

นอกจากนี้ตรวจยึด รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นที่ต้องสงสัยว่าได้มา มีไว้ หรือได้ใช้ในการกระทําความผิดที่เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจากความผิดดังกล่าวถือเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 ของ พ.ร.บ.ฟอกเงินอีกด้วย ก่อนนําส่ง พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปอศ. เพื่อดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s