เมื่อวันที่ 14 กันยายน นายผจญ เปียพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร พร้อมด้วยชาวบ้านที่ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรวมแล้วเกือบ 100 คน รวมตัวกันร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อให้ช่วยเผยแพร่ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นให้ถึงผู้บริหารหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร โดยชาวบ้านกลุ่มนี้เป็นเกษตรกรจาก ต.สามง่าม อ.สามง่าม และจาก ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตรจาก 5 หมู่บ้าน ซึ่งมีพื้นที่การเกษตรนับหมื่นไร่ ได้ร้องทุกข์ว่าชาวบ้านจาก 5 หมู่บ้าน 2 ตำบล ซึ่งใช้ถนนเลียบคันคลองชลประทาน ซี 35 เป็นเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกหมู่บ้าน รวมถึงใช้ถนนเส้นนี้เป็นเส้นทางขนส่งพืชผลทางการเกษตรเพื่อนำไปขายที่ตลาดและที่โรงสี แต่ปรากฏว่าถนนขาดการเหลียวแลจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พอฝนตกลงมาถนนก็เละ เป็นหลุมเป็นบ่อ มีแต่ขี้โคลน ทำให้ไม่สามารถขนส่งพืชผลทางการเกษตรได้สร้างความเดือดร้อนเป็นเช่นนี้มานานหลายปี

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามผู้นำก็บอกว่า ถนนเลียบคันคลองชลประทาน ซี 35 อยู่ในความดูแลของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล จ.พิษณุโลก แต่ความเดือดร้อนเกิดขึ้นกับเกษตรกรและชาวบ้านในเขตพื้นที่จ.พิจิตร จึงทำให้ถูกโลกลืมและไม่ได้รับการพัฒนาปรับปรุงจึงมีสภาพอย่างที่เห็น
นายผจญ เปียพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.สามง่าม เปิดเผยว่า อยากให้ อบต.สามง่าม-อบต.ย่านยาว รวมถึง อบจ.พิจิตร ให้ช่วยเร่งประสานงานกับกรมชลประทาน หรือ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพลายชุมพล จ.พิษณุโลก หาวิธีปรับปรุงถนนหนทางเส้นนี้เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้สามารถใช้ถนนเลียบคันคลองชลประทาน ซี 35 เป็นเส้นทางคมนาคมและขนพืชผลการเกษตรไปสู่ตลาดและโรงสีด้วย
ภาพ/ข่าว : สิทธิพจน์ เกบุ้ย
