เมื่อวันที่ 6 กันยายนในการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานแก้ไขปัญหาการครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินป่าภูทับเบิก ในพื้นที่ ต.วังบาลและ ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ โดยนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์เป็นประธานการประชุม นายกฤษณ์กล่าวถึงการแก้ไขพื้นที่ภูทับเบิกในตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจากยังไม่รับอนุญาตใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้ และสถานการณ์ปัจจุบันยังพบว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ตเพิ่มขึ้นบนภูทับเบิก จึงจำเป็นต้องมาพูดคุยและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ทั้งนี้ ในด้านการข่าวตั้งแต่มีการรื้อรีสอร์ตโดยตนเป็นคนไปรื้อเองในช่วงนั้น หลังจากนั้นทางจังหวัดมีการสั่งกำชับพื้นที่และทางป่าไม้มาโดยตลอดว่าให้ดำเนินการควบคุมพื้นที่ไม่ให้มีการฝ่าฝืน แต่ในการการข่าวปรากฎว่ามีการฝ่าฝืนสร้างกันขึ้นมาใหม่ ตนจึงสั่งในวันนี้ว่าให้ทำบัญชี 3 ประเภท โดยประเภทที่ 3 คนนอกไปทำในพื้นที่โดยไม่ใช่พื้นที่ของตนเองให้ป่าไม้ตรวจสอบและจับกุมดำเนินคดี ในส่วนของโรงแรมที่ไม่ได้จดแจ้งให้นายอำเภอสั่งปิด โดยให้บอกเขาไปด้วยว่าที่ไม่ครบคุณลักษณะที่ยังไม่ได้จดแจ้งห้องเกิน 5 ห้อง ถ้าไม่รื้อถอนและไม่เข้ากับคุณสมบัติสามารถจดแจ้งได้ให้รอไปเปิดปีใหม่
“กฎกระทรวงเกี่ยวกับห้องพักที่ไม่ใช่โรงแรมมีการแก้ไขใหม่น่าจะประกาศใช้ประมาณเดือนธันวาคม ขอให้เขาอดทนไปก่อนและขอให้รักษากติกา ป่าไม้จังหวัดรายงานผมทุกเดือนว่า ไม่พบการบุกรุก แต่ข้อเท็จจริงมีการบุกรุกขอให้ไปตรวจสอบกันใหม่และทำการจับกุมดำเนินคดีด้วย เพราะพวกนี้หากก่อสร้างแล้วก็เป็นโรงแรมเถื่อน ซึ่งโรงแรมเถื่อนเป็นปลายเหตุ ต้นเหตุคือการบุกรุก ฉะนั้นหากเราเข้มงวดไม่ให้มีการบุกรุกเขาก็สร้างไม่ได้ พ.ร.บ.โรงแรมและพ.ร.บ.ควบคุมอาคารก็ไม่ต้องใช้ และถึงแม้จะใช้ พ.ร.บ.โรงแรมแรมข้อหาบุกรุกป่าก็ยังอยู่”นายกฤษณ์กล่าว
ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า ฝากรองผู้ว่าฯและปลัดจังหวัดช่วยประสานกรมการปกครอง ให้ช่วยเร่งรัดกฎกระทรวงเกี่ยวกับโรงแรม และฝากนายอำเภอหล่มเก่าและป่าไม้ ให้แจ้งทางอบต.เข้มงวดเกี่ยวกับการใช้ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร โดยที่ไหนไม่ถูกต้องให้ปิดประกาศ และให้บังคับใช้ พ.ร.บ.โรงแรมโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ป่าไม้ซึ่งเป็นกำลังหลักหากสามารถระงับยับยั้งการบุกรุกเพิ่มเติมได้ พ.ร.บ.พวกนี้ไม่ต้องใช้ และขอให้รายงานตามข้อเท็จจริงด้วย