เมื่อวันที่ 5 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กระบี่ เพื่อติดตามสถานการณ์และการคาดการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรเข้ารับฟังการบรรยายสรุป จากผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เลขาธิการ สทนช. เลขาธิการ ส.ป.ก. และ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ณ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ เพื่อสรุปภาพรวมปริมาณฝนในจังหวัดพบว่า สูงกว่าปี 64 ร้อยละ 8 โดยรับทราบความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ การจัดสรรที่ดินทำกินของ ส.ป.ก. การรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์มและความสมดุล สร้างมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่มากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี

พล.อ.ประวิตร กล่าวแสดงความเป็นห่วง สถานการณ์ฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องในหลายพื้นที่ภาคใต้ และปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยย้ำสั่งการ สทนช. กำกับงานเชิงรุก 13 มาตรการรับมือฤดูฝน และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 65 และให้กรมชลประทาน วางแผนจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และติดตามเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด
สำหรับ การดูแลพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ พล.อ.ประวิตรได้กำชับ ขอให้เร่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้ ประกอบกิจการเกษตรหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งขับเคลื่อนตามมาตรการที่ กนป.กำหนด พร้อมย้ำต้องสร้างการรับรู้ให้ชาวสวน ตัดผลปาล์มที่สุกเต็มที่ กวดขันลานเทและโรงสกัดมิให้ฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ การตรวจสอบติดตั้งมิเตอร์และระบบรายงานข้อมูล ช่วยพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ กวดขันจับกุมเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าปลอม รวมทั้งน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน และการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง การสนับสนุนการใช้น้ำมัน B 100 ทดแทนน้ำมันดีเซลในภาคการเกษตร รวมทั้งส่งเสริมมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูป 8 ชนิด “สู่พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต ที่ยั่งยืนระดับระดับโลก”

จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้พบปะกับ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และย้ำถึง การเดินทางมาวันนี้ ตั้งใจมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรด้วยตัวเอง ยืนยันรัฐบาล ติดตามและให้ความสำคัญ แก้ปัญหาสถานการณ์น้ำมันปาล์มและปาล์มน้ำมันมาต่อเนื่อง ตนในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้ผลักดันแก้ปัญหามาต่อเนื่อง โดยพยายามลดต้นทุนด้านราคาให้ดีขึ้น ออกมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งผลักดันนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ไบโอดีเซล รวมทั้งการส่งออกและเร่งมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูป 8 ชนิด โดยราคาดีขึ้นสูงกว่าราคาประกันรายได้จากราคาเฉลี่ย ปี 62 กิโลกรัมละ 3 บาท เป็น 6 บาทในปี 64 และ คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 7.50 บาท อย่างไรก็ตาม ได้ย้ำการแก้ปัญหาต้องไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อน โดยเฉพาะในปีหน้า 66 ประเทศไทย เราจะก้าวไปด้วยกัน “สู่การเป็นศูนย์กลางผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพให้กับอากาศยาน” เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในภูมิภาคนี้ รัฐบาลจะดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ดีที่สุด ด้วยรอยยิ้มถ้วนหน้า
ต่อมาพล.อ.ประวิตร’ ได้เดินทางไป ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.กระบี่ พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำรัฐบาล ตั้งใจขับเคลื่อนแก้ปัญหาเรื่อง ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน พร้อมกำชับ ขอให้ ส.ป.ก.กระบี่ ต้องเร่งจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนตามแผนงานที่กำหนด และเร่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะการสร้างสระขนาดใหญ่ในพื้นที่ เชื่อมต่อกับระบบชลประทานกระจายนำ้ออกไปให้ทั่วถึง เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เสริมความเข้มแข็ง ให้ประชาชนเข้มแข็งสามารถดูแลตนเองได้