เมื่อวันที่ 1 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่กระทรวงพลังงานได้มีมติให้มีการปรับราคาของก๊าซหุงต้มขึ้นอีกกิโลกรัมละ 1 บาท โดยวันนี้เป็นวันแรกของการปรับราคาของก๊าซหุงต้ม หลังจากที่มีการปรับราคาอย่างต่อเนื่องตั้งช่วงเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา โดยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาก็ได้มีการปรับราคาของก๊าซหุงต้มด้วยเช่นกัน โดยก๊าซหุงต้มถังละ 15 กิโลกรัมซึ่งเป็นขนาดที่นิยมใช้กันทั้งภายในครัวเรือนและร้านอาหารต่างๆ ซึ่งมีราคาถังละ 445 บาท จากเดิม ถังละ 430 บาท แต่สำหรับก๊าซหุงต้มที่ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่ร้านอาหารอาจมีราคาพุ่งไปถึงถังละ 450-460 บาท โดยรวมค่าขนส่งเข้าไปด้วย
ทั้งนี้ จากการปรับราคาของก๊าซหุงต้มในครั้งก็ได้ส่งผลกระทบไปยังประชาชนเพราะว่า ก๊าซหุงต้มถือเป็นสินค้าจำเป็นที่ประชาชนส่วนใหญ่ใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้จากการปรับราคาของก๊าซหุงต้มยังส่งผลกระไปยังผู้ประกอบการร้านอาหารต่าง ๆ อย่างไรก็ตามจากการสอบถามร้านอาหารส่วนใหญ่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาเพื่อเป็นการรักษาลูกค้าเอาไว้ จึงยอมแบกรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นต่อไป
น.ส.อัมพร สกุลสามารถ อายุ 41 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวโชคอำนวย บริเวณศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า พอทราบข่าวการปรับราคาของก๊าซหุงต้มตนก็เลยรีบสั่งเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนที่ราคายังไม่ปรับ โดยที่ร้านของตนนั้นใช้ก๊าซหุงต้มขนาดถัง 15 กิโลกรัม และขนาดถังละ 48 กิโลกรัม ก๊าซหุงต้มที่ใช้ส่วนใหญ่จะใช้ในการต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ซึ่งตนจะเปิดเอาไว้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังใช้ในการตุ๋นหมูจึงทำให้ในแต่ละวันใช้ก๊าซหุงต้มค่อนข้างเยอะ โดยถัง 15 กิโลกรัม ตนใช้ประมาณ 4-5 วัน และถัง 48 กิโลกรัม ใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ราคาของก๊าซหุงต้มจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นแต่ร้านของตนก็คงยังขายก๋วยเตี๋ยวในราคาเดิมคือชามละ 50 บาท ที่ไม่ขึ้นราคาเพราะว่าสงสารลูกค้าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ตนจึงยอมที่จะแบกต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาของก๊าซหุงต้ม